สถานที่เที่ยวน่าสนใจในราชบุรี

  

 

จังหวัดราชบุรี นับว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และอาหารที่ให้เลือกรับประทานมากมาย อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 1.30-2 ชม.จากกรุงเทพมหานครก็ถึงแล้ว

 

ราชบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่งที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่ก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกัน รอผู้คนให้มาท่องเที่ยว เราจึงอยากให้พื้นที่นี้เป็นส่วนหนึ่งในการรวบรวมภาพและข้อมูลบางส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรี โดยเราเลือกตั้งต้นที่ตัวเมืองราชบุรี เพื่อให้นักเดินทางได้ทราบเส้นทางและระยะทางไปยังที่หมายแต่ละแห่งได้ง่ายขึ้น

 

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ตัวเมืองราชบุรี

หากเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองราชบุรีและต้องการเที่ยวใกล้ๆเรามีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำที่ใช้เวลาเดินทางไม่มากสามารถเที่ยวได้หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็มีความสำคัญต่างกัน ทั้งทางด้านโบราณสถาน ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ภูมิประเทศและความน่าสนใจไม่น้อย ควรค่าแก่การไปเยือน ดังนี้

 

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระอารามหลวง (วัดหน้าเมือง)

      

   

วัดเก่าแก่ประจำจังหวัด อยู่ในบริเวณตัวเมืองราชบุรี และมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวราชบุรีอย่างยิ่ง วัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สร้างตั้งแต่สมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งเขมร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 ถนนเขางู ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ตั้งอยู่เกือบใจกลางเมืองราชบุรี ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำแม่กลอง เดิมเรียกว่า "วัดหน้าพระธาตุ" "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ" มีพระปรางค์ก่อด้วยศิลาแลงสูง 12 วา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่พระปรางค์ เป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

แรกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 13 ต่อมาในราวพุทธศตวรรษที่ 18 วัฒนธรรมเขมรจากราชอาณาจักรกัมพูชาได้แพร่เข้าสู่ดินแดนราชบุรี จึงได้มีการก่อสร้างและดัดแปลงศาสนสถานกลางเมืองราชบุรีขึ้นเป็นพระปรางค์ และสร้างกำแพงศิลาแลงล้อมรอบเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของเมืองตามคติความเชื่อเรื่องภูมิจักรวาลของเขมร ต่อมาในสมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21 ได้มีการก่อสร้างพระปรางค์แบบอยุธยาขึ้งซ้อนทับและสร้างพระปรางค์บริวารขึ้นอีก 3 องค์บนฐานเดียวกัน

ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงพระกรุณาโปรกเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองราชบุรีจากฝั่งตะวันตกมายังฝั่งตะวันออก ประชาชนก็ย้ายตามความเจริญไปด้วย วัดมหาธาตุจึงกลายเป็นวัดร้างไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. 2338 พระภิกษุองค์หนึ่งชื่อพระบุญมา ได้ธุดงค์มาเห็นวัดนี้มีสถานที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมจึงได้ขอความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชนช่วยกันปัดกวาดซ่อมแซมเสนาสนะต่างๆ ในที่สุด วัดมหาธาตุจึงกลับมาเป็นศูนย์กลางของศาสนาเช่นเดิม และยังคงเป็นมาจนถึงปัจจุบัน

พิกัด GPS
13.547595, 99.814039

 

เขาวัง ราชบุรี

   

ดั้งเดิมแต่โบราณในสมัยรัชกาลที่5 เคยเป็นวังขนาดเล็ก ปัจจุบันกลายเป็นวัดเขาวัง ตั้งอยู่บนเขาวังห่างจากตัวเมืองราชบุรีประมาณ ๓ กิโลเมตร บนถนนเพชรเกษม มีถนนรถยนต์และเดินไปได้สะดวกจนถึงเชิงเขา เขาวังเดิมชื่อว่า "เขาสัตตนาถ"เพราะ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด อาทิ เก้ง กวาง ลิง ฯลฯ ทางราชการได้ประกาศห้ามทำร้ายสัตว์ในเขตดังกล่าว ที่เขาสัตตนาถเดิมมีวัดอยู่่วัดหนึ่งอยู่ตรงเชิงเขาด้านทิศตะวันออก แต่ร้างมานาน มีการบันทึกไว้ว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และทรงโปรดฯให้ยกกระบัตรเมืองราชบุรีเป็นผู้อำนวยการสร้าง เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ทรงยกกองทัพตีชนะกองทัพพม่า และพระราชทานนามวัดนี้ว่า "วัดเขาสัตตนาถ"

ครั้งต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงโปรดฯให้สร้างพระราชวังขนาดเล็กบนเขานี้ และไม่ปรากฏว่าได้รับพระราชทานนามอย่างใดไว้ ชาวเมืองราชบุรีเรียกกันแต่เพียงว่า "เขาวัง" มาจนถึงทุกวันนี้ เหตุที่สร้างพระราชวังนี้ขึ้นมานั้น เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จไประพาสบนยอดเขานี้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๔ ทรงพอพระราชหฤทัยและทรงมีพระราชดำริว่า "เขาสัตตนาถนี้ ประกอบด้วยเขาน้อยใหญ่อยู่ข้างๆ อีกหลายลูก ถ้าได้สร้างพระราชวังและตำหนักเจ้านายขึ้น คงเป็นที่พักตากอากาศได้ดีแห่งหนึ่ง" จึงทรงโปรดให้สมเด็จเจ้าพระยามหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุญนาค) ดำเนินการจัดสร้างพระราชวังขึ้นบนยอดเขา และสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ได้มอบหมายให้พระยาเพชรบุรี ซึ่งเคยเป็นนายงานสร้างพระนครคีรีที่จังหวัดเพชบุรีตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๔ เป็นแม่กองสร้างพระราชวังบนเขาสัตตนาถ

ในการสร้างพระราชวังครั้งนัี้น ได้ทำทางขึ้นเป็นสองทาง อ้อมขึ้นไปรอบเขา รถยนต์สามารถขึ้นไปได้ทางหนึ่ง และมีทางตรงเป็นทางเดินเท้าต่อขึ้นไปจนถึงหน้าท้องพระดรงอีกทางหนึ่ง ที่เชิงเขาด้านตะวันออกมีโรงทหารรักษาพระองค์ ๑ โรง ด้านพลับพลาเชิงเขามีโรงรถม้า โรงม้า ตรงทางสองแพร่งมีกระโจมสำหรับทหารยาม ต่อขึ้นไปมีดรงทหารมหาดเล็กสร้างเป็นแถวยาวหลังหนึ่ง เหนือขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งมีทีมดาบตำรวจอยู่ตรงหน้าท้องพระโรง มีกำแพงแก้วล้อมรอบ ถัดมาเป็นท้องพระโรง ต่อจากท้องพระโรงเข้าไปเป็นพระที่นั่ง ต่อไปข้างหลังเป็นห้องเสวยและเป็นที่สำหรับพวกโขนอยู่

พิกัด GPS 13.529547, 99.794930

ภาพและข้อมูล: เพจวัดเขาวัง พระอารามหลวง จังหวัด ราชบุรี, thai.tourismthailand.org 

 

 

เขาแก่นจันทร์

 

"เขาแก่นจันทร์" หรือเดิมเรียกว่า "เขาจันทร์แดง" เป็นภูเขาขนาดไม่ใหญ่นัก ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม ห่างจากตัวเมืองจังหวัดราชบุรีประมาณ 2 กิโลเมตร ด้านล่างเป็นสวนสาธารณะและที่ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 มีถนนลาดยางขึ้นไปถึงยอดเขา ยอดเขามีความสูงประมาณ 141 เมตร ระหว่างทางขึ้นเขายังมีสภาพป่าและเส้นทางคดเคี้ยวหักศอก มีความลาดชันเป็นบางช่วง มีหอนาฬิกาที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น ด้านบนสุดมีวิหารและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนิโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือ “พระสี่มุมเมือง” นอกจากนี้ด้านบนยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองราชบุรีได้โดยรอบบริเวณอีกด้วย

ประวัติเขาแก่นจันทร์ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือ "พระพุทธรูปสี่มุมเมื่อง" ซึ่งเป็นพระ 1 ใน 4 องค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น แล้วพระราชทานไปประดิษฐานไว้ในเมืองต่าง ๆ 4 เมือง ดังนี้ คือ จังหวัดราชบุรี จังหวัดลำปาง จังหวัดสระบุรี และจังหวัดพัทลุงองค์ถูกจัดสร้างขึ้นตามความเชื่อและโบราณประเพณีของบ้านเมืองที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาที่จะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องขอบขัณฑสีมาทั้งสี่ทิศ โดยการสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศนั้นเป็นการสร้างพระพุทธรูปแบบ"จตุรพุทธปราการ"กล่าวคือเป็นการนำเอาวัดหรือพระพุทธรูปเป็นปราการทั้ง 4 ด้าน เพื่อปกป้องภัยันตรายจากอริราชศตรู ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริทสร้างดวงชะตาแก่บ้านเมืองและคุ้มครองพสกนิกรทั้งมวลให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข

พิกัด GPS 13.523334, 99.786383

ข้อมูล thailandtourismdirectory.go.th

 

อุทยานหินเขางู

 

อุทยานหินเขางู  อยู่ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีประมาณ 8  กิโลเมตร ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี  แต่เดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินที่สำคัญของไทยตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เนื่องจากเป็นปูนที่มีคุณภาพดี ต่อมาทั้งภาครัฐและประชาชนได้เล็งเห็นถึงความเสื่อมโทรมของสภาพภูมิประเทศ และวิวทิวทัศน์ อีกทั้งที่เขางูนี้ยังเป็นศาสนสถานอันเก่าแก่ จึงได้มีการยกเลิกสัมปทานการระเบิดและย่อยหินที่บริเวณนี้ไป หลังจากยกเลิกสัมปทาน เขางูกลายเป็นเหมืองร้าง มีสภาพทรุดโทรม ทางจังหวัดราชบุรีจึงได้พัฒนาเขางูให้เป็นสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยว ทางโบราณคดี ได้สร้างพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ เต็มพื้นที่หน้าผา สร้างจากการยิงแสงเลเซอร์ลงหน้าผาหิน ภายในอุทยานหินเขางูแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีอยู่หลายแห่ง ซึ่งจะเป็นถ้ำที่อยู่บนภูเขามีถ้ำฤๅษี ถ้ำฝาโถและถ้ำจีน-จาม แต่ละถ้ำอยู่ไม่ไกลกัน แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไต่เขาไปค่อนข้างสูง บริเวณรอบๆก็จะมีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

ภายในอุทยานหินเขางูแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีอยู่หลายแห่ง ซึ่งจะเป็นถ้ำที่อยู่บนภูเขามีถ้ำฤๅษี ถ้ำฝาโถและถ้ำจีน-จาม แต่ละถ้ำอยู่ไม่ไกลกัน แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไต่เขาไปค่อนข้างสูง บริเวณรอบๆก็จะมีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

ภายในถ้ำต่างๆนี้พบพระพุทธรูปจำหลัก หรือพระพุทธรูปที่สลักหินที่ฝาผนังถ้ำอยู่หลายองค์ ซึ่งพระพุทธรูปเหล่านี้เป็นพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยทวารวดีเลยทีเดียว

ถ้ำในบริเวณอุทยานหินเขางู

ถ้ำฤๅษี พบพระพุทธรูปสมัยทวารวดี 2 องค์ องค์แรกประทับห้อยพระบาท (ประลัมพปาทาสนะ) พระหัตถ์ขวาอยู่ในปางแสดงธรรม (วิตรรกมุทรา) พระหัตถ์ซ้ายวางในพระเพลา ระหว่างพระบาทมีจารึกว่า ปุญกรมชฺระ ศฺรีสมาธิคุปฺต (ะ) แปลว่า พระศรีสมาธิคุปตะเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยการกระทำบุญ อีกฟากของผนังถ้ำมีพระพุทธรูปยืนปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางสมาธิอื่นๆอีกหลายองค์

ถ้ำฝาโถ พบพระพุทธรูปนอนจำหลักปางมหาปรินิพพานมีประภามณฑลและลายปูนปั้นรูปต้นสาละ ด้านบนมีรูปเทพชุมนุม ผนังด้านตรงข้ามมีภาพสาวก2 องค์

ถ้ำจีน พบพระพุทธรูปจำหลัก 2 องค์ ปางสมาธิ พระหัตถ์แสดงวิตรรกมุทรา มีร่องรอยของการพอกปูนทับ องค์ที่อยู่ใกล้ปากถ้ำมีรอยหักพัง ไม่สมบูรณ์

ถ้ำจาม พบพบพระพุทธรูปนอนจำหลักปางมหาปรินิพพาน และภาพยมกปาฏิหาริย์ มีภาพปูนปั้นรูปต้นมะม่วง ถัดมายังพบรูปบุคคลยืนซ้อนกันและรูปพญานาคอีกด้วย

และที่ถ้ำเขางูแห่งนี้จะมีงานนมัสการเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11

พุทธสถานแต่ละถ้ำนี้ น่าจะสร้างขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เนื่องจากมีลักษณะทางศิลปกรรมมีความใกล้เคียงกัน และจากการเปรียบเทียบกับงานศิลปะอื่นๆก็สามารถกำหนดช่วงเวลาของศิลปะบริเวณ เขางูนี้ได้ว่า อยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่13-14 นี่เองและด้วยความสมบูรณ์และจำนวนพุทธศิลป์ที่มีอยู่มากที่เขางูนี้ จึงแสดงให้เห็นว่าที่ถ้ำเขางูนี้น่าจะเป็นศาสนสถานที่สำคัญของดินแดนแถบนี้ เหมือนเมืองสำคัญๆเช่น เมืองนครปฐมโบราณ

 

พิกัด GPS 13.569576, 99.774600

ข้อมูล : เที่ยวราชบุรี.com

 

เราได้จัดทำแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวแนะนำในเมืองราชบุรีและใกล้เคียงมาให้ท่านเพื่อความสะดวก สามารถขี่จักรยานหรือขับรถไปเที่ยวได้อย่างสะดวกเพราะอยู่ในระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตรจากออนเดอะริเวอร์ ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็สามารถเที่ยวได้ครบหมด

 

 

นอกจากนี้จังหวัดราชบุรียังมีเส้นทางที่สวยงามและมีสถานที่ท่องเที่ยวตามรายทางหลายแห่ง เช่น ทางหลวง 3206 แยกจาก ถนนเพชรเกษม (ทล.4) ตรงสี่แยกปากท่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทางที่ผ่านทิวทัศน์อันงดงามด้วยภูเขาสลับซับซ้อน ไปจนถึงอำเภอสวนผึ้ง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (อีกเส้นทางหนึ่งที่จะไปเชื่อมต่อกันได้คือ ทางหลวง 3337 แยกจาก ถนนเพชรเกษม ตรงสี่แยกห้วยชิณสีห์) ส่วนสถานที่อื่นๆ เราจะพยายามรวบรวมหาข้อมูลและภาพมาให้เพิ่มเติมอีก โดยขอแนะนำสถานที่ต่างๆดังนี้ 

 

เขาถ้ำทะลุ อ.ปากท่อ 

 

เป็นวัดที่เดินทางสะดวก อยู่ริมถนน ตั้งอยู่ที่บ้านถ้ำทะลุ ถนนปากท่อ-ทุ่งหลวง ตำบล ดอนทราย อำเภอเมืองราชบุรี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าผาเชิงเขา โดยจะสังเกตเห็นพระพุทธชินราชจำลององค์ใหญ่ประดิษฐานบนเขาเห็นได้โดดเด่นชัดเจน สามารถจอดรถได้ภายในวัดหน้าปากถ้ำ โดยเดินเพียงนิดเดียว ในถ้ำจำมีพระพุทธรูปปางต่างๆ โดยเฉพาะที่ขึ้นชื่อเป็นสถานที่ในคำขวัญของอำเภอปากท่อ คือพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน ภายในถ้ำ เป็นถ้ำที่มีลักษณะเป็นโพรงขนาดใหญ่ สามารถเดินทะลุออกไปอีกด้านของภูเขาคล้ายมีปากถ้ำทั้งสองด้านของภูเขา (จึงได้ถูกเรียกว่าทะลุเขา) มีลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก ภายในถ้ำมีอากาศถ่ายเทปลอดโปร่งเย็นสบาย และมีบรรยากาศภายนอกดี มีจุดให้ถ่ายภาพได้หลายจุด หากชอบการปีนเขาก็มีบันได้ให้ขึ้นไปนมัสการพระพุทธชินราชจำลองพอได้เหงื่อ แต่ก็สามารถมองวิวได้กว้างไกลสวยงาม

 

การเดินทาง จากตัวเมืองราชบุรี ใช้ถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าวังมะนาว (ทางแยกไปเพชรบุรีและภาคใต้) ทางแยกเข้าถึงบริเวณวัดมีหลายทาง แต่ทางที่สะดวกและไม่งงจะเป็นแยกใหญ่ทางหลวงหมายเลข 3206 (ปากท่อ-บ้านบึง) จากนั้นจะมีทางแยกรูปตัว Y ให้เบี่ยงไปทางขวา ถนนปากท่อ-ทุ่งหลวง ขับไปเพียงประมาณ 1 กม.ก็ถึงแล้ว

พิกัด GPS   13.695167, 99.605498

 

วัดเขาอีส้าน หรือ วัดเทพประทาน

 

วัดเขาอีส้าน เทพประทาน ตั้งที่ หมู่ 6 ต.ดอนหวาย อ.ปากท่อ จ. ราชบุรี วัดเขาอีส้านหรือวัดเทพประทานก่อตั้งสถาปนาเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2528 มีพื้นที่ 27 ไร่ อยู่ติดถนนใหญ่ริมเชิงภูเขาที่สูงตระหง่านเป็นธรรมชาติยิ่ง และอยู่ห่างจากถนนสายหลักถนนเพชรเกษม เส้นทางมาจากกทม. เลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดง (สี่แยก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี) ประมาณ 6.4 กิโลเมตร

 

พระสงฆ์ที่มาบุกเบิกในยุคแรก คือพระอาจารย์ตั้ง ธัมมกาโม พัฒนาพื้นที่วัดแห่งนี้ ได้อย่างรุ่งเรืองและสืบเนื่องเรื่อยมา จนเป็นที่รู้จักของผู้แสวงหาธรรมและธรรมชาติโดยถ้วนทั่ว โดยเฉพาะในยุคของพระอาจารย์พระครูวีรธรรมาภิรัต (เอี๋ยว อคฺควีโร ) ศาสนสถานได้รับการทำนุบำรุงดูแลจากเหล่าศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชน นำประชาชน เยาวชน และบุคลากร ในหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมทำกิจกรรมกับทางวัด โดยเฉพาะการเรียนรู้ทางธรรม - ปฏิบัติธรรม และเรียนรู้ชีวิตจนมีอาคารที่พักเข้าค่ายปฏิบัติธรรมที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง

 

สิ้งที่น่าสนใจในวัดเขาอีส้านได้แก่ องค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม องค์ใหญ่ อยู่ที่เชิงเขา พระสังกัจจายน์ พระเศรษฐีนวโกฏิ พระพุทธโคดม เป็นต้น

 พิกัด GPS  13.385560, 99.773201

ติดต่อสอบถาม ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร. 0 3247 1005-6

http://www.tourismthailand.org/phetchaburi

 

  

อ่างเก็บน้ำบ้านวังปลาช่อน

ระยะทาง 52 กม.จากตัวเมืองราชบุรี ถนนเพชรเกษมมเลี้ยวขวาที่แยกปากท่อ ตาม ทล.3206 แยกเข้าไปประมาณ 2 กม. สังเกตป้ายทางเข้าวัดวังปลาช่อนสถานที่แห่งนี้เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณหน้าวัดมีทิวทัศน์สวยงามด้วยผืนน้ำใสสะอาด ด้านหน้ามองไปเห็นทิวเขาลดหลั่น มีความเป็นธรรมชาติมาก และสงบเงียบ เหมาะกับการมาปิคนิคกับครอบครัว เพื่อนฝูง และไม่ชอบความวุ่นวายหนาแน่นของนักท่องเที่ยว สามารถขับรถเที่ยวรอบๆ อ่างเก็บน้ำ หรือคนที่ชอบตกปลาก็มีปลาชุกชมพอสมควร แต่แพหน้าวัดห้ามตกนะ 

 พิกัด GPS  13.245174, 99.650985

 

  

อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน

จากจังหวัดราชบุรีเดินทางโดยรถยนต์ไปตามถนนเพชรเกษม ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3206 ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านไทยประจัน ระยะทาง 5 กิโลเมตร จะถึงที่การอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เส้นทางดังกล่าวลาดยางตลอด (ระยะทางจากตัวเมืองราชบุรี 54 กม. ตามเส้นทาง ทล.3337) 

ลักษณะภูมิประเทศ 

เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนวางตัวในแนวเหนือใต้อยู่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดราชบุรี จนไปจดประเทศสภาพพม่า ครอบคลุมพื้นที่ 349.59 ตารางกิโลเมตร ในท้องที่อำเภอปากท่อ อำเภอสวนผึ้ง และกิ่งอำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ยอดเขาสูงสุดชื่อ เขายืดหรือเขาพระรอบ มีความสูงประมาณ 834 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะธรณีของพื้นที่เป็นหินตะกอน ประกอบด้วยหินกรวดมน หินชั้น หินปูน หินดินดาน และหินทราย สภาพดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง ปกคลุมไปด้วยอินทรีย์วัตถุ ดินเป็นดินร่วนปนทราย มีการดูดซึมน้ำได้อย่างดี เทือกเขาป่าแม่ประจันเป็นแหล่งต้นน้ำของลำห้วยหลายสาย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของห้วยพุไทร ห้วยท่าเคย ห้วยพุน้ำร้อน ลุ่มน้ำแม่ประจัน ไหลลงแม่น้ำเพชรบุรีและลุ่มแม่น้ำภาชี ซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำกลอง 

 

ลักษณะภูมิอากาศ

สภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็นตลอดปี โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมจากตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูฝน และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ถึง เดือนมิถุนายน ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง เดือนตุลาคมและฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 

 

พืชพรรณและสัตว์ป่า

ลักษณะทั่วไปของสังคมพืชในอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจันประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ชนิดพันธุ์ไม้มีสำคัญของ ได้แก่ ประดู่ แดง ตะแบก เสลา ส้าน มะค่าโมง ตะค้อ ตะคร้ำ สมอพิเภก เลี่ยน กะบก มะกอก ฯลฯ พืชพื้นล่าง ได้แก่ ไผ่ไร่ ไผ่ซาง ไผ่บง และไผ่ข้าวหลาม เป็นต้น ป่าดิบแล้ง ครอบคลุมพื้นที่ทางด้านตะวันตกและทางด้านเหนือ ชนิดพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ ยางขาว ยางแดง ตะเคียน ยมหอม จำปาป่า รัก จำปีป่า กระบาก มะม่วงป่า ตะแบก มะหาด มะไฟป่า สะเดาป่า ฯลฯ พืชพื้นล่าง ได้แก่ ไผ่บง ไผ่เฮียะ ต๋าว หวาย ปาล์ม เฟิน เป็นต้น 

 

บริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาตินี้ยังคงสภาพที่อุดมสมบูรณ์อยู่มาก และเนื่องจากป่าเป็นผืนเดียวกันกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี และประเทศสหภาพพม่า จึงมีการย้ายถิ่นฐานของสัตว์ป่าไปมาอยู่เป็นประจำ ที่พบเห็นได้แก่ กวางป่า กระทิง เก้ง กระจง หมี หมูป่า ลิง ค่าง ชะนี อีเห็น ชะมด เสือไฟ หมูหริ่ง บ่าง หมาไน เม่น ลิ่น พังพอน ค้างคาว กระต่ายป่า กระรอก กระแต และหนูป่า นกที่พบเห็น ได้แก่ นกเงือกสีน้ำตาล นกกาฮัง นกแก๊ก นกเงือกกรามช้างปากเรียบ นกเงือกดำ เหยี่ยว นกเค้า นกปรอด นกกระปูด นกกางเขนน้ำ นกขมิ้น นกกระทาดง นกขุนทอง นกแซงแซว นกตะขาบ นกหัวขวาน นกเขียวก้านตอง นกแซวสวรรค์ ไก่ป่า นกยางเขียว และนกบั้งรอกใหญ่ สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่พบเห็นได้แก่ เขียดหิน กบภูเขา คางคก ปาด และอึ่งอ่าง สัตว์เลื้อยคลานที่พบเห็น ได้แก่ ตะพาบ เต่า งู ตะกวด ตุ๊กแก กิ้งก่า จิ้งเหลน และแย้ ปลาที่พบเห็น ได้แก่ ปลาค้อ ปลาตะเพียนทราย ปลาหมอช้างเหยียบ ปลาซิวหางแดง ปลาก้าง ปลาไส้ต้นตาแดง ปลาแป้นแก้ว ปลาซิวใบไผ่ ปลาพลวง ปลาตะเพียนน้ำตก ปลาซิวควายแถบดำ ปลาหนามหลัง และปลาอีด เป็นต้น 

ข้อมูล  : http://park.dnp.go.th/

พิกัด GPS  13.268222, 99.553720

 

  

หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว บ้านหัวเขาจีน

หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยยางโทน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี  ระยะทางจากตัวเมืองราชบุรี 34 กม. ตามเส้นทาง ทล.3206 

 

ประวัติความเป็นมา

บ้านหัวเขาจีน เป็นนามเรียกขานถิ่นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชนชาติพันธ์หนึ่งเรียกว่า “ไทยทรงดำ” 

กลุ่มชนที่เรียกตนเองว่าไทยทรงดำนี้ ได้อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากดินแดนที่ห่างไกลและได้เข้ามาจับจอง

เอาชัยภูมิที่เห็นว่าเหมาะสมต่อการดำรงชีพ และได้ตั้งชื่อชุมชนนี้ว่า “บ้านหัวเขาจีน” เนื่องจากบ้านหัวเขาจีน

ในอดีตจะมีทะเลล้อมรอบและได้มีพ่อค้าชาวจีนนำเรือสำเภามาซื้อขาย

และแลกเปลี่ยนสินค้าบริเวณนี้ แต่ได้เกิดอุบัติเหตุเรือสำเภาแตก หัวเรือมาติดอยู่กับภูเขา จึงเรียกว่า 

หัวเขาจีน ต่อมาได้ใช้เป็นชื่อหมู่บ้านว่า  “บ้านหัวเขาจีน” 

มาจนถึงปัจจุบันนี้  (ข้อมูลที่มีการบันทึกเป็นตำนาน หรือคำบอกเล่าของบรรพบุรุษ)

 

แนะนำการท่องเที่ยวหมู่บ้านหัวเขาจีน

ศูนย์กลางการศึกษาดูงานด้านวัฒนธรรมไทยทรงดำ/หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง/กลุ่มสตรีทอผ้า

ซึ่งเป็นสถานที่ศึกษาดูงานด้านวัฒนธรรมไทยทรงดำ/ภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยมีศูนย์วัฒนธรรม

ไทยทรงดำเป็น ศูนย์รวมของประชาชน เป็นหมู่บ้าน โดยมีวัฒนธรรมประเพณี มีความรัก ความสามัคคี 

และมีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน มีเอกลักษณ์ของตนเอง สร้างชุมชนที่เข้มแข็งเพื่อเป็นประโยชน์และก่อให้เกิด

การพัฒนาหมู่บ้าน และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้น

 

ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมไทยทรงดำ

ศูนย์วัฒนธรรมไทยทรงดำ(เฮือนลาว)ซึ่งเป็นศูนย์ที่ถ่ายทอดวิถีทางวัฒนธรรมของชนชาติที่เรียกตนเอง

ว่า “ไทยทรงดำ”และเป็นศูนย์ ทอผ้าไทยทรงดำของกลุ่มสตรีอาสาพัฒนาซึ่งสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ทางภูมิ

ปัญญาท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี โดยมีการต้อนรับด้วยวิถีทางวัฒนธรรมท้องถิ่นและการแสดง

ทางวัฒนธรรมไทยทรงดำ เช่น สาธิตการทอผ้า การแสดงต้อดคอน ฟ้อนแคน แสดงพิธีกรรมต่างๆ

 พิกัด GPS  13.340504, 99.748294

 

  • Chez Bruno ch3.jpg
    Chez Bruno Restuarant & Wine Bar ก่อนย้ายมาเป็น On the River Ratchaburi เราเปิดให้บริการเริ่มแรก ณ โรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok ในชื่อ Kitchen Paradiso แล้วจึงย้ายไปยังห้า...

  • Chez Bruno  Green Chanel life story (1).JPG
    หนังสือพิมพ์และนิตยสารชื่อดังหลายฉบับ ได้เคยมาถ่ายทำรายการ และสัมภาษณ์ คุณวิริยะ พึ่งสุนทร เจ้าของ ที่ได้มีความชื่นชอบการทำอาหาร จนกระทั่งเป็นแรงบันดาลใจให้ขยายธุรกิจเครื่องสำอาง ม...

  • on the river ratchaburi (5).jpg
    หลายครั้งที่ได้เห็นข่าวอาหารปนเปื้อนสารเคมีที่เป็นอันตราย และไม่สะอาด เราในฐานะที่เป็นผู้บริโภคด้วย จึงตระหนักถึงความสำคัญนี้ หากจะทำธุรกิจร้านอาหารก็จะต้องหาวัตถุดิบที่ดี สะอาด ปล...
Visitors: 55,968